PERIPHERAL MAGNETIC STIMULATION
เครื่องให้การรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็ก
อาการปวด ชาจากปลายประสาทหรือจากการกดทับ รักษาด้วย "เครื่องกระตุ้นแม่เหล็ก"
คลื่นแม่เหล็กกระตุ้นโดยตรงที่เส้นประสาท เพื่อยับยั้งอาการปวดและชาโดยความแรงของคลื่น- แม่เหล็กสามารถกระตุ้นลงได้ลึกถึง 10 เซนติเมตร และกระตุ้นได้สูงสุด 100% ซึ่งเท่ากับ 3 Tesla* สามารถกระตุ้นผ่านอากาศและเสื้อผ้าได้ ซึ่งผลของการกระตุ้นรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็ก คือ ลดอาการปวดจากระบบเส้นประสาทและฟื้นฟู เส้นประสาทที่ได้รับบาดเจ็บนอกจากนี้ยังช่วยคลายกล้ามเนื้อได้ดีรวมทั้งเพิ่มการไหลเวียนเลือดซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อให้ดีขึ้นอีกด้วย
*Tesla=หน่วยความแรงของแม่เหล็ก
เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กเหมาะกับอาการใดบ้าง ?
- อาการปวดกล้ามเนื้อ ข้อต่อ ทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ปวดที่เกิดจากเส้นประสาทผิดเพี้ยนไปจากอาการปวดเรื้อรังในระยะเวลานาน
- อาการปวดจากระบบประสาท (Neuropathic pain) เช่น หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท
- อาการชาที่เกิดจากปลายประสาท,การกดทับเส้นประสาทต่างๆ และ ชาที่เกิดจากเบาหวาน
- ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อในผู้ป่วยอัมพาต
ความรู้สึกขณะกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็ก?
รู้สึกกระตุกสั่นๆที่กล้ามเนื้อ ปวดหน่วงๆตื้อๆ ตรงบริเวณที่มีอาการเจ็บ ซึ่งสามารถให้การรักษาได้ตรงจุดเจ็บ แม่นยำ
โดยทั่วไป ใช้เวลาในการรักษา 15-30 นาทีตามอาการของโรคซึ่งโดยส่วนใหญ่เห็นผลทันทีหลังการรักษาและไม่ต้องกระตุ้นซ้ำบ่อยๆทั้งนี้ระยะเวลาในการกลับมาของอาการต่างๆขึ้นอยู่กับโรคและภาวะเรื้อรังของอาการนั้นๆ
ผู้ป่วยที่ไม่แนะนำรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นแม่เหล็ก
- บริเวณที่เป็นมะเร็ง
- บริเวณที่มีโลหะเป็นวงกลมใหญ่ๆ เช่น ลวดไวร์ริ่งตรงสะบ้าเข่า
- จุดที่มีเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าฝังในร่างกายแบบที่มีแบตเตอร์รี่ เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ Pacemaker
- มีครรภ์
การเตรียมตัวก่อนการรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นแม่เหล็ก
- ถอดอุปกรณ์ที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดขณะใช้งาน (คลื่นแม่เหล็กมีผลต่อแบตเตอร์รี่ในอุปกรณ์ อิเกทรอนิกส์, โทรศัพท์ มือถือ, กุญแจรถ, บัตรเครดิตการ์ด)
- ตรวจสอบถึงข้อห้ามและข้อควรระวังของการรักษาด้วย เครื่องกระตุ้นแม่เหล็ก
- หากระหว่างที่รักษารู้สึกกระตุกแรงเกินไปหรือปวดมากขึ้น ให้รีบแจ้งทันที
หากกระตุ้นในปริมาณที่มากและแรงเกิน (สำหรับในบางคน)
- อาจทำให้ปวดมากขึ้นหลังทำการรักษา และอาจเกิดอาการตะคริวได้
- อาจเกิดภาวะอ่อนแรงแบบชั่วขณะได้
- อาจทำให้ร่างกายล้า (fatigue)
- หากเกิดผลข้างเคียงข้างต้นควรแจ้งกับแพทย์ทันที ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ทันที
- อาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้และหายใน 2 - 3 วัน